หลังการเจรจาสู่ขอผ่านไปในที่สุดกรวีร์ก็มีโอกาสได้อยู่ตามลำพังกับว่าที่สามีของตัวเอง ตอนที่เขาบอกว่าจะกลับแล้ว เธอรีบเสนอตัวออกมาส่ง โดยที่คุณกัญญาได้แต่นั่งมองตาปริบๆ เพราะห้ามไม่ทันหรือห้ามทันลูกสาวก็คงไม่ฟัง
หนุ่มสาวเดินเคียงคู่กัน ปวินท์ลดระยะก้าวเท้าให้สั้นลงเล็กน้อยเพื่อให้คนข้างๆ เดินตามทัน ดูเหมือนว่าลูกสาวเจ๊หวีจะยังไม่หมดข้อกังขาและเรื่องที่เธอยังค้างคาใจอยู่ก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเสียด้วย ชายหนุ่มสอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินไปเรื่อยๆ รอคอยอย่างใจเย็น
นี่เสี่ย ไหนๆ เราก็จะร่วมหอลงโรงกันแล้ว เสี่ยไม่คิดจะถามชื่อหรือทำความรู้จักฉันอย่างเป็นทางการหน่อยเหรอ
เธอคงไม่ได้ตามฉันมาเพื่อท้วงเรื่องนี้หรอกใช่ไหม...กีวี่ ปวินท์ยิ้ม เขาไม่จำเป็นต้องถามเพราะได้ยินเจ๊หวีเรียกชื่อลูกสาวบ่อยจนจำได้ขึ้นใจ ส่วนชื่อจริงเดี๋ยวตอนจดทะเบียนก็ได้รู้อยู่ดี ไม่เห็นต้องรีบร้อน มีอะไรอยากถามก็ถามมาเถอะ
เสี่ยจะตอบจริงดิ
ขึ้นอยู่กับคำถามว่าตอบได้หรือเปล่า
ฉันไม่ถามสมการพีทาโกรัสเสี่ยหรอกน่า รู้...ว่าคำนวนเก่ง หญิงสาวก้าวไปยืนขวางหน้าทำให้ปวินท์ต้องหยุดเดินโดยอัตโนมัติ แล้วเธอก็โพล่งออกมา เสี่ยต้องการเมียไปทำไม
เอาไปส่งชิงโชคล่ะมั้ง เสี่ยตอบกลั้วหัวเราะ แล้วย้อนถาม เธอคิดว่าเป็นเพราะอะไรล่ะที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งถึงอยากมีเมียขึ้นมา อย่าคิดซับซ้อนเลยน่า ฉันก็เป็นคนธรรมดาๆ ที่อยากจะมีครอบครัวเหมือนคนอื่น
ท่าทางของเสี่ยมันไม่เหมือนคนอยากมีครอบครัวไงฉันถึงได้ถาม คนที่อยากสร้างครอบครัวเขาไม่เร่งแม่สื่อแบบเสี่ยหรอก มันร้อนรนเกินไป เหมือนต้องรีบใช้งาน
อันที่จริงก็รีบใช้ในระดับหนึ่ง
รีบใช้
ก็ถ้าไม่มีเมีย ครอบครัวจะสมบูรณ์ได้ไงล่ะ ปวินท์เห็นเธอขมวดคิ้ว ทำไมหรือเกิดอยากเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้ว
ถ้าฉันเปลี่ยนใจขึ้นมาจริงๆ เสี่ยจะทำไง
ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นแม่เธอต่างหากที่ต้องทำ
ดวงตาที่เคยเป็นประกายขบขันบัดนี้สงบราบเรียบราวกับทะเลที่กำลังก่อคลื่นลมพร้อมโบกพัดพายุใหญ่ ไม่มีรอยยิ้มรื่นรมย์บนใบหน้าหล่อเหลาอีกแล้ว ช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คนเห็นหนาวยะเยือก
ถ้าไม่อยากเป็นเมียฉัน ก็หาเงินสามแสนมาคืนกันแค่นั้นเอง ฉันไม่เคยบังคับใจใคร เธอก็เห็นว่าฉันแฟร์แค่ไหน เธอยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจได้ ตราบใดที่เรายังไม่จดทะเบียนกัน
กรวีร์แกล้งถอนใจร้องเฮ้อออกมาดังๆ ก็ถ้ามีเงินสามแสน ฉันคงไม่ต้องอุทิศตัวไปขัดดอกหรอกค่ะคุณว่าที่สามี
งั้นควรจบเรื่องนี้ได้แล้ว ในเมื่อฉันให้เลือก เธอก็ยังเลือกฉันเหมือนเดิม
กรวีร์รู้สึกสะดุดหูกับคำพูดนั้น เธอเลือกเขาที่ไหนกันล่ะ แหม...เสี่ยนี่ใจกว้างเนอะ ทำอย่างกับว่าฉันมีทางให้เลือกเยอะแยะ
ปวินท์เห็นหญิงสาวเม้มปาก เมินหน้าหนีไปทางอื่น เขาอยากรู้ว่าอะไรกันที่คนกล้าบ้าบิ่นอย่างลูกสาวเจ๊หวีเป็นกังวล ในเมื่อตอนที่คุยกันสามคนก็ดูมั่นใจมาก ต่อปากต่อคำไม่ลดละ
อะๆๆ งั้นเรามาแนะนำตัวกัน ฉันเริ่มก่อน ชายหนุ่มแกล้งพาดแขนโอบไหล่ บังคับให้เธอเดินไปพร้อมกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่รอมาเนิ่นนาน เฮ้ย! ไม่ใช่สิ เป็นครั้งแรกที่ถูกเขาบุกเข้าถึงตัว กรวีร์สะดุ้งโหยง ตัวแข็งทื่อ ก้าวขาไม่ออก แต่วินาทีต่อมาก็ยอมโอนอ่อนเดินตามแรงรั้ง ปวินท์ยิ้มค่อนข้างพอใจกับปฏิกิริยาของเธอ ชายหนุ่มเริ่มต้นเล่า
ปวินท์ ปรานต์ปราณนต์ คือชื่อ สกุลจริงของฉัน ใครๆ ก็เรียกฉันว่าเสี่ยไปป์ ซึ่งฉันไม่ซีเรียสหากเธอจะเรียกฉันว่าเสี่ยไปป์หรือพี่ไปป์ตามน้องสาวฉันก็ได้ แต่อย่าจิกหัวเรียกผัวว่าไอ้ไปป์ก็แล้วกัน เสี่ยขาแบบเมื่อกี้ก็ไม่เอานะ ถือว่าฉันขอ ได้ยินแล้ว...บรื๋อ ขนลุก
เสี่ยขาของกรวีร์แสร้งทำท่าแขยงแขงขน หญิงสาวอมยิ้มไม่พูดขัด เงียบฟังเขาเล่าต่อ
ฐานะและหน้าที่การงานของฉันมั่นคงพอเลี้ยงเมียให้อยู่สบายๆ ได้ เธอไม่ต้องไปหิ้วถังปูนตากแดดหัวแดงเป็นแรงงานต่างด้าว เหมือนสมัยที่แม่กับพ่อฉันบุกเบิกปองพลคอนสตัคชัน
โห...เฮียปองเคยใช้เจ๊ปิ๋มหิ้วถังปูนด้วยเหรอ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาตาโต พอเห็นประกายขบขันในแววตาก็รู้ตัวว่าโดนเสี่ยบ้านี่แกล้งเข้าแล้ว
เปล่า ฉันพูดให้มันดูเวอร์ไปงั้นแหละ
ฮื้อ... กรวีร์ทำเสียงขัดใจ นึกอยากจะฟาดหน้ายิ้มๆ นั่นสักผัวะ
ไม่เอาน่า ฉันเห็นเธอเครียดๆ ก็เลยอยากให้ผ่อนคลาย เป็นเมียเสี่ยไปป์ต้องสดใสร่าเริง ปวินท์ขยิบตาใส่ ฉันดูแลปองพลคอนสตัคชันกับทัชพล เพื่อนรักที่ฉันไว้ใจมากที่สุด ไว้เจอกันแล้วจะแนะนำให้รู้จักนะ ปองพลคอนสตัคชันเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักของครอบครัวเรา ฉันเป็นโรคกระเพาะมันเป็นๆ หายๆ น่ะ อย่างอื่นก็ถือว่าสุขภาพแข็งแรง ไม่เสี่ยงโรคติดต่อร้ายแรงหรือกามโรค ถ้าเผื่อเธอจะติดใจเรื่องนี้ก็สบายใจได้ ฉันค่อนข้างจะหวงแหนความเป็นชายในระดับหนึ่ง ฉันไม่เล่นการพนัน ไม่สูบบุหรี่ ส่วนเหล้ามีบ้างเวลาที่ต้องออกงานหรือวาระพิเศษ คร่าวๆ ก็มีเท่านี้ รายละเอียดอย่างอื่นคิดว่าเราน่าจะต้องค่อยๆ เรียนรู้ศึกษากันไป คราวนี้ตาเธอเล่าบ้าง
กรวีร์อ้าปากค้าง ฉันเหรอ
งั้นสิ
หญิงสาวพบว่าว่าที่สามีของเธอเป็นคนที่เบี่ยงประเด็นเก่ง เขาสามารถพาตัวเองก้าวออกจากจุดวิกฤตและพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายไล่ต้อนเธอแทน ถ้าจำไม่ผิดก็ไม่ใช่ว่าเธอเพิ่งถามเขาหรอกเหรอว่าอยากมีเมียไปทำไม แต่เขาก็พูดโยกไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ หลบหลีกได้อย่างชาญฉลาดและกำลังจะล้วงความลับของเธอในขั้นต่อไป
กรวีร์ค้อนขวับ เสี่ยคนนี้ร้ายกาจชะมัด แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือทุกครั้งที่เขาพูดถึงปองพลคอนสตัคชันน้ำเสียงของปวินท์เต็มไปด้วยความรักและภาคภูมิใจ
ฉันชื่อกรวีร์ ชื่อเล่นคุณก็รู้แล้วนี่ ฉันก็เหมือนๆ คุณนั่นแหละ ต่างแค่ตกงานกับร้อนเงินนิดหน่อยก็เท่านั้น ช่วงนี้ก็อาศัยกำไรจากการขายหม้อทอดออนไลน์ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว กรวีร์จบประวัติส่วนตัวอย่างรวดเร็ว
แค่นี้
อื้อ เธอพยักหน้า ฉันมันโลว์โพรไฟล์ จะเอาอะไรมาเล่าเยอะแยะแบบเสี่ยล่ะ
มีแฟนไหม
สวยๆ แบบนี้จะโกหกว่าไม่เคยมีก็กลัวบาป แต่เสี่ยสบายใจได้ เพราะแฟนเก่าฉันตอนนี้มีลูกสองคนแล้ว
สวยๆ แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีใครกล้าทิ้ง เธอก็ดูฉลาด ทำไมถึงเลือกผู้ชายโง่ๆ มาเป็นแฟน
กรวีร์หัวเราะคิกคักที่เขาเลียนแบบคำพูดของเธอ เสี่ยนี่ปากคอเราะร้ายใช่เล่น ถ้าแฟนเก่าฉันฉลาด เสี่ยก็พลาดได้ฉันเป็นเมียนะสิ คือ...จะนินทาแฟนเก่ายังไงไม่ให้เราดูร้ายดีล่ะ เป็นเพราะว่าฉันจนเลยโดนทิ้ง ไม่มีใครอยากได้ลูกสาวช่างทำผมไปเชิดหน้าชูตาหรอก มันไม่ส่งเสริมหน้าที่การงานสักเท่าไร
กระแสเสียงประชดประชันทำให้ปวินท์ยิ้ม ความโสดของเธอทำให้เขาสบายใจ ส่วนเรื่องฐานะก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
โชคดีที่ฉันฐานะมั่นคงแล้ว รับรองว่าเรื่องเงินๆ ทองๆ จะไม่เป็นปัญหากับชีวิตคู่ของเรา และเพื่อความสะใจเล็กๆ ฉันอยากแนะนำว่าต่อไปถ้าเธอเจอใครที่คิดดูถูกลูกสาวช่างทำผมอีกละก็เชิดใส่คนพวกนั้นได้เลยเพราะว่าสามีของเธอรวยมาก
ฉันชักจะชอบเสี่ยขึ้นมาแล้วสิ สามีรวยมาก
กรวีร์หัวเราะชอบใจ ก่อนจะยิ้มอวดฟันขาวสะอาดเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม เออเนาะ เป็นเมียเสี่ยมันดีแบบนี้นี่เอง แถมเสี่ยของเธอยังโสด ไม่ต้องไปเป็นเมียเก็บ เมียลับให้เมียหลวงมาลวงสังหารด้วย
ฉันขออะไรเสี่ยอย่างหนึ่งได้ไหม
หลายอย่างก็ได้
หญิงสาวไม่อาจเก็บรอยยิ้มพอใจในความใจป้ำของเขา แต่ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องตกลงกันให้รู้เรื่อง
ตลอดเวลาที่ฉันยังเป็นเมียเสี่ยอยู่ ถ้าเสี่ยอยากมีเล็กมีน้อย เสี่ยบอกฉันนะ อย่าทำหลบๆ ซ่อนๆ ฉันจะหย่าให้...พร้อมเงินชดเชยจากเสี่ยอีกห้าแสน
โธ่เอ๊ย นึกว่าจะใจกว้าง
แหม...ก็คิดซะว่าเป็นค่าสึกหรอ
คำพูดของหญิงสาวทำให้ปวินท์กวาดตามองทั่วเรือนร่างอย่างมีความหมาย ดวงตาชายหนุ่มฉายแววเจ้าชู้กรุ้มกริ่มชนิดที่คนถูกมองต้องรีบผลักมือเขาออกจากไหล่แล้วขยับหนีออกไปยืนห่างๆ ทั้งคู่เดินกันมาถึงรถของเขาแล้ว
อย่าห่วงเลยฉันใช้ของถนอมมือ รับรองว่าเธอจะไม่สึกหรอเพราะฉันแน่นอน ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ ก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการอำลา หลับฝันดีนะครับว่าที่ภรรยา พรุ่งนี้เจอกันหน้าอำเภอ อย่าหลอกฉันไปรอเก้อล่ะ
พูดจบปวินท์ก็เปิดประตูขึ้นรถ ขับออกไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนมองสุดสายตา
ปวินท์ออกจากบ้านเจ๊หวีก็ขับรถตรงไปยังโรงพยาบาลซึ่งใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาที ปกติเลิกงานแล้วเขาก็จะมาเยี่ยมแม่กับน้องก่อนเข้าบ้าน แต่เพราะวันนี้เขามีธุระกับเจ๊หวีก็เลยมาดึกกว่าทุกวัน
ประตูลิฟต์เลื่อนออกชายหนุ่มเดินตรงไปที่ห้องของแม่กับน้อง เคาะเบาๆ แล้วเปิดเข้าไป ในห้องมีทัชพลยืนเกาะเตียงของประภามนท์ ขณะที่เตียงของแม่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งหันหลังให้ พอได้ยินเสียงเปิดประตูเธอก็หันมามอง
ปวินท์ชะงักไปนิด ไม่คิดว่าจะเห็นคนรักเก่ามาเยี่ยมแม่กับน้อง ตั้งแต่นลินตัดสินใจคบหากับธนชิต เขาก็ไม่เคยเห็นเธอไปไหนมาไหนโดยปราศจากเงาลูกชายนายกเลย พอเห็นเธอฉายเดี่ยวแบบนี้ก็นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย
หลิน ชายหนุ่มยิ้มทัก มาคนเดียวเหรอครับ
ค่ะ เจ้าของชื่อยิ้มตอบกลับมาอย่างอ่อนหวาน หลินมาเยี่ยมปาล์มกับป้าปิ๋ม เห็นพี่ทัชบอกว่าพี่ไปป์ไปธุระ
อ๋อ...ครับ
เรียบร้อยดีไหม ทัชพลถาม ปวินท์พยักหน้าอย่างรู้กัน
นัดเซ็นสัญญากันพรุ่งนี้ แกคงต้องเข้าบริษัทไปประชุมแทนฉันช่วงเช้า
อืม...ได้สิ ว่าแต่ไม่มีปัญหาเลยเหรอ
ราบรื่นกว่าที่คิด ปวินท์ยิ้มอย่างสบายใจพลางเดินเข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างเตียงแม่กับน้อง ชายหนุ่มจับมือแม่ขึ้นมาแนบแก้ม วันนี้คุณนายปรารถนาอาการเป็นไงบ้างครับ
อยากกลับบ้านแล้ว วันๆ เอาแต่นอนๆๆ น่าเบื่อ คุณปรารถนาบ่นกับลูกชาย
ไม่เอาน่าแม่ รอให้หมอไล่ก่อนค่อยกลับ ขนาดปาล์มเกือบจะเป็นปกติแล้วหมอยังไม่ยอมให้กลับเลย
เพราะพี่ไปป์สั่งหมอให้คุมตัวหนูกับแม่ไว้ต่างหาก
ปวินท์ยิ้มเฉยไม่ตอบ ที่ประภามนท์พูดมามันก็ใช่ อยู่โรงพยาบาลไม่ได้ไปไหน อึดอัดหน่อยแต่ก็ปลอดภัย ขืนได้กลับบ้านก็ต้องออกไปไหนมาไหนให้เป็นห่วงอีก รอให้เมียเขามาเบี่ยงความสนใจคนร้ายก่อน แม่กับปาล์มน่าจะขยับตัวทำอะไรได้ง่ายกว่าตอนนี้ที่ยังหน้าสิ่วหน้าขวาน
หลินมานานหรือยัง ปวินท์ถามคนที่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของเตียงแม่
นานแล้ว แม่ยังบอกให้กลับอยู่นี่ เดี๋ยวทางนู้นก็เป็นห่วง ประภามนท์ตอบแทน
ตั้งแต่เกิดเรื่องหลินไม่เคยมาเยี่ยมป้าปิ๋มเลย มาแล้วก็อยากอยู่คุยด้วยนานๆ
ไม่ได้หรอก คุณปรารถนารีบขัดอดีตคนรักของลูกชาย ครูมาอยู่นานๆ คนอื่นเขาจะว่าเอา วันหลังก็ชวนคุณชิตมาด้วยกันสิ จะอยู่นานเท่าไรป้าจะไม่ว่าเลย
ช่วงนี้เขาไม่ค่อยว่างค่ะ นลินสีหน้าไม่ดีนักเมื่อถูกถามถึงคนรักปัจจุบัน ครูสาวฝืนยิ้มและขอตัวกลับทันที พี่ไปป์มาแล้วพี่ทัชก็มีเพื่อน งั้นหลินกลับก่อนดีกว่าค่ะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะคะป้าปิ๋ม ปาล์ม
จ้ะ ขอบใจมากนะที่ยังอุตส่าห์นึกถึงกัน คุณปรารถนายิ้มส่ง รอให้ครูสาวออกไปพ้นจากห้องจึงระบายลมหายใจออกมายาวเหยียดจนประภามนท์ที่นอนอีกเตียงยังอดล้อไม่ได้
เมื่อก่อนไม่เห็นแม่อึดอัดกับครูหลินขนาดนี้
ก็ตอนนั้นเขาคบกับพี่แก ไม่เหมือนตอนนี้ เขาไปเป็นลูกสะใภ้คนอื่นแล้ว ยิ่งเห็นหน้าแม่ก็ยิ่งเจ็บใจแทน ลูกชายแม่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าลูกชายนายก คนพูดใส่อารมณ์เป็นเดือดเป็นแค้น
คนไม่ใช่ทำยังไงมันก็ไม่ใช่นะแม่ ทำใจเถอะ ลูกสาวปลอบ และลูกชายพยักหน้าเห็นด้วย
ไม่มีวาสนา ไม่อาจพานพบ ผมกับหลินคงทำบุญกันมาเท่านั้น เลยหมดวาสนาต่อกันง่ายๆ พูดแล้วปวินท์ก็นึกแปลกใจที่เขาจดจำคำพูดของว่าที่ภรรยาได้อย่างแม่นยำ
แล้วแม่จะได้เจอผู้หญิงที่มีวาสนากับลูกชายของแม่วันไหน
ดวงตาของปวินท์อ่อนแสงลง นึกถึงภาพหญิงสาวคนหนึ่งที่ไหว้ย่อจนเข่าติดพื้นแถมยังต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่ยอมแพ้ กรวีร์ดูไม่น่าจะใกล้เคียงกับคำว่าวาสนาพามาเจอ แต่พอคิดถึงเธอขึ้นมาชายหนุ่มก็เผลอยิ้มกว้างตอบกลับแม่ไปอย่างไม่ลังเล
พรุ่งนี้ครับ
เสี่ยแกน่าจะติดใจในตัวภรรยาอยู่บ้าง
แหม่ จำคำพูดได้เป๊ะขนาดนี้ โดนกีวี่ตกแบบไม่รู้ตัวหรือเปล่าคะเสี่ยยยยยย
ย้ำอีกที นี่ร่างแรกนะคะ จบแล้วค่อยเกลากันใหม่