บทที่ 8
เอ่อ...ถ้าน้ำลดและมีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่ท่วมเข้าหมู่บ้าน งั้นเกษตรคงมีเวลาคิดหาวิธีปราบเพลี้ยให้ชาวบ้าน" เพลินตะวันมองหน้าเกษตรคนใหม่อย่างจริงจัง
"เพลี้ย?" คนถูกมองเลิกคิ้วสูง ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเธอมากนัก เพลี้ยอะไรอีกล่ะ
"ใช่เพลี้ย เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลน่ะ เกษตรรู้จักไหม ตัวมันเป็นแบบ..."
พอๆ ไม่ต้องเวิ่นเว้อ ด้วยเกียรติของเกษตรตำบลสักวาจะทนให้เธอดูถูกเขาไม่ได้เด็ดขาด ยัยผีกะหล่ำมือสากทำเสียงดูถูกเหมือนไม่แน่ใจว่าเขาจะรู้จักเพลี้ยที่เธอพูดถึง มันจะมากไปแล้ว ชายหนุ่มคิดอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก "คุณมีเหตุผลอะไรที่ทำให้คิดว่าผมจะไม่รู้จักไอ้ตัวที่คุณพูดถึง เข้าเรื่องเถอะคุณมีปัญหาอะไรกับมัน"
"ฉันน่ะไม่ แต่ชาวบ้านน่ะมี"
อ๋อ...ที่แท้ก็เรื่องของชาวบ้านนี่เอง สักวาพยักหน้างึกงักไม่ได้รู้สึกผิดสักนิดที่ประโยคนั้นของเขาเป็นการว่าเหน็บอยู่กรายๆ
เพลินตะวันใช่ว่าจะไม่รู้ตัว นายเกษตรปากร้าย คิดว่าเธอแคร์หรือไงกับถ้อยคำเสียดสีพวกนั้น จ้างให้ก็ไม่สนใจหรอก จะคิดยังไงช่างเขา ชาวบ้านสำคัญกว่า
"ค่ะ มันเป็นเรื่องของชาวบ้าน ที่คุณก็จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเหมือนกัน ตอนนี้มันระบาดมาก ถ้าเกษตรรู้จักเพลี้ยนั่น เกษตรก็คงจะรู้ด้วยใช่ไหมว่าผลของมันจะออกมายังไงถ้าพวกมันทำลายข้าวของชาวบ้าน เกษตรคิดว่าจะมีวิธีช่วยพวกเขาได้ไหม" ท่าทางคุกคามของหลานสาวทำให้ประมุขของบ้านต้องเอ่ยยั้ง
"แกจะไปคาดคั้นอะไรกันวะ เกษตรหวาเพิ่งมาถึงยังไม่เต็มวันเลยนะ ให้เขาพักผ่อนก่อนสิวะ"
"อ้าว...ชาวบ้านเดือดร้อน รอได้ด้วยเหรอลุงเบิ้ม"
"เจ้าเพลิน เสียงเนิบๆ นิ่มๆ ของป้าสีนุ่มดังขึ้น ก่อนที่มือบอบบางของคู่ชีวิตผู้ใหญ่เบิ้มจะตักแกงส้มใส่จานข้าวหลานสาว วันนี้แดดร้อน ทุกคนคงจะเพลียน่าดู โดยเฉพาะหนุ่มๆ ของเรา เสร็จจากนี่แล้วป้าว่าแยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาถกปัญหากัน อีกอย่างถ้านั่งคุยอย่างนี้มีหวังตะเพียนต้องกลับบ้านดึกแน่ๆ จริงไหมจ๊ะ
ตะเพียนทองยิ้มอย่างหวาดๆ และรีบพยักหน้าเห็นด้วยกับป้าสีนุ่ม ซึ่งทุกคนในที่นี้รู้ดี ยกเว้นเกษตรคน ใหม่ และถ้าใครที่คิดจะขัดคอป้าสีนุ่มละก็ผิดถนัด
จริงจ้ะป้า ฉันว่าเรารีบกินกันเถอะจ้ะ
เพลินตะวันสบตากับเพื่อน จากนั้นจึงหันไปทางป้า แน่นอนว่าปัญหาของเธอถูกป้านุ่มดีดกระเด็นตกใต้ถุนเรือนไปเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก้มลงเขี่ยข้าวในจาน หากแต่สมองยังครุ่นคิดวนเวียน คืนนี้เธอจำเป็นต้องหยุด แต่พรุ่งนี้เธอจะลุยเต็มที่
เช้าวันรุ่งขึ้นเพลินตะวันตื่นแต่เช้ามาช่วยป้าสีนุ่นเตรียมกับข้าวใส่บาตร มันเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอ นับตั้งแต่สูญเสียพ่อแม่ไป สิ่งเดียวที่เธอพอจะทำให้พวกท่านได้นั่นคือการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ การกลับมาทำงานอยู่ที่บ้านทำให้เธอได้มีเวลาให้ตัวเองและมีเวลาให้ครอบครัวที่เหลืออยู่มากขึ้น
น่าเศร้าที่บางคนพ่อแม่อยู่ครบแต่กลับไม่มีเวลาให้ท่าน ไม่เคยคิดว่าพวกท่านจะต้องการการดูแลเอาใจใส่ แต่สำหรับคนขาดแม่และสูญเสียพ่ออย่างเพลินตะวันนั้น ครอบครัวมีค่ามากที่สุด เธออาจจะดื้อรั้นดันทุรังกับใครๆ แต่เธอจะสงบได้อย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าคนในครอบครัวไม่สบายใจกับการกระทำของเธอ โชคดีที่ทุกคนเข้าใจความคิดและทัศนคติของเธอ เมื่อเธอคิดจะทำสิ่งใด คนในครอบครัวก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
หญิงสาวร่วมตักบาตรกับสีนุ่นและช่วยถือถาดขันข้าวขึ้นไปเก็บบนเรือนใหญ่ ก่อนจะเดินกลับเรือนของตน ขากลับเธอเจอสักวา ก็ค่อนข้างแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นเกษตรในชุดออกกำลังกาย สวมกางเกงวอร์มพร้อมเสื้อกีฬาแขนกุดอวดต้นแขนกล้ามเป็นมัดๆ มีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดคอ ท่าทางเขาคงจะออกมาวิ่งนานพอสมควรเพราะใบหน้าคมเข้มนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
เขาเองก็ชะงักเมื่อเห็นเธอ แต่ก็ยังปากดีกวนประสาท ตื่นแต่เช้าไปสำรวจเพลี้ยกระโดดหรือไงคุณ
เพลินตะวันขมวดคิ้วและเอียงคอมองเขาอย่างพิจารณา นี่ถ้าไม่เคยได้ยินเขาอ้อนแฟนมาก่อน เธอก็จะเชื่อสนิทใจเลยว่าตอนก่อนที่เขาจะเกิดมาเทวดาคงยัดตำแยใส่ปากฝากรักมาเป็นแน่ถึงพูดอะไรไม่ค่อยเข้าหูอย่างนี้
เปล่า ฉันมาใส่บาตรกับป้านุ่มกำลังจะกลับเรือน คุณล่ะไปวิ่งหนีหมาที่ไหนมาเหงื่อซ่กเลย เธอว่าแล้วเดินต่อ ซึ่งเรือนของเธอกับเรือนพักของสักวาต้องใช้เส้นทางเดียวกันดังนั้นเขาจึงต้องเดินตามเธอไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ผมก็คิดว่าวิ่งหนีพ้นแล้วนะ แต่ดันมาพลาดท่าโดนกัดเอาแถวนี้ เกษตรปากเสียโต้กลับมาไม่ลดละ
นี่เกษตร ฉันอยากจะทำความเข้าใจกับคุณก่อน น้ำเสียงของเพลินตะวันนั้นหนักแน่นทีเดียว
เรื่องอะไรล่ะ
ทุกเรื่อง! เพลินตะวันรู้ตัวว่าถูกมองอย่างระแวง แต่เธอก็คิดไตร่ตรองดีแล้วสำหรับเรื่องนี้ ฉันรู้สึกว่าคุณไม่ชอบหน้าฉัน อาจถึงขั้นเกียจขี้หน้าเลยด้วยซ้ำ
ก็...ไม่ถึงขนาดนั้น เขาบอกเหมือนจะยอมรับ ผมคิดว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไรที่คุณลากผมไปมาระหว่างตลาด - ร้อยบุญ ร้อยบุญ - ตลาด แล้วคุณก็ยังทำผมเจ็บตัวด้วย คำขอโทษของคุณก็ดูเหมือนว่าพูดออกมาโดยไม่รู้สึกร่วมไปกับมัน
เพลินตะวันหยุดเดินและผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะหมุนร่างกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ถ้าวันนั้นฉันทำให้คุณขุ่นเคืองมากขนาดนี้ ฉันก็ขอโทษอีกทีแล้วกัน ก็ใช่ฉันมันสะเพร่าไม่ดูตามาตาเรือ ความจริงวันนั้นฉันควรถามคุณสักนิด แต่ทุกอย่างมันก็ผิดพลาดไปแล้ว ฉันย้อนเวลาไปถามคุณในตอนนั้นไม่ได้ นอกจากขอโทษ
ทำไม
ทำไมอะไร เพลินตะวันไม่เข้าใจคำถาม
ก็ทำไมคุณถึงได้มาขอโทษผม เมื่อคืนยังทำท่าเหมือนผมเป็นหนอนกะหล่ำตัวล่ำๆ ที่คุณจ้องจะบี้ให้แหลกคามืออยู่เลย
ไม่รู้สิ พอดีฉันมาคิดได้ว่า ถ้าฉันมีปัญหากับคุณมันจะมีผลกระทบหลายอย่าง อย่างแรกคือเราอยู่บ้านรั้วเดียวกัน และงานของฉันกับคุณก็แทบจะต้องพบเจอกันตลอด เพราะฉะนั้นฉันขอเริ่มต้นใหม่ เราดีกันนะ
เพลินตะวันยื่นมือออกมาข้างหน้าและฉีกยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร เห็นได้ชัดว่าเกษตรคนใหม่ปรับอารมณ์ตามเธอไม่ทัน
สักวาดูงงๆ แต่ก็ยอมยื่นมือออกมาสัมผัสกับมือกระด้างของหญิงสาว แรงบีบหนักหน่วงบอกว่าเจ้าของมือสากนั้นยินดีที่จะโยนความบาดหมางระหว่างกันทิ้งไป
ฉันเคยติดตามลุงก้าน เอ๊ย เกษตรก้านลงแปลงบ่อยๆ คุณจะรังเกียจไหมถ้าฉันจะอาสาเป็นพี่เลี้ยงให้
ทำไมจะต้องรังเกียจด้วยล่ะ ดีเสียอีกมีคุณไปด้วยหมาจะได้ไม่กัด สักวาหัวเราะออกมาอย่างชอบใจเมื่อแม่สาวมือสากตวัดสายตาเขียวปัดมาที่เขา ผมล้อเล่นน่า
เพลินตะวันชำเลืองมองเหมือนจะค้อน แล้วทั้งคู่ก็ออกเดินอีกครั้ง บรรยากาศที่เริ่มต้นอย่างขุ่นมัวเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี รับกับสภาพอากาศยามเช้าของบ้านร้อยบุญ ในช่วงท้ายฤดูฝนแบบนี้ยามเช้ามักจะสดใส หากพอตกบ่ายฝนก็จะเริ่มตั้งเค้าดำทะมึนดูน่ากลัว มรสุมกำลังจะผ่านพ้นไปพร้อมกับการลุ้นระทึกของชาวร้อยบุญว่าจะรอดจากอุทกภัยหรือไม่
ดูเหมือนฝนใกล้จะหมดแล้วนะ ถ้าพายุไม่เข้ามาอีก ร้อยบุญก็น่าจะรอด สักวาชวนคุย
ตะเพียนก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน
นี่ถึงขนาดพึ่งเจ้าแม่เลยเหรอคุณ สักวาถามขำๆ เพราะเมื่อคืนผู้ใหญ่เบิ้มแนะนำกับเขาว่าตะเพียนทองนั้นเป็นร่างทรง
ฉันไม่ได้ถามเจ้าแม่ ฉันถามยัยตะเพียนต่างหาก คุณทำเป็นเล่นไปยัยนั่นเก่งนะเรื่องดินฟ้าอากาศนี่ เพลินตะวันไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมเพื่อนรักถึงเชี่ยวชาญด้านนี้ ปล่อยให้สักวาคิดว่าเป็นอิทธิฤทธิ์เจ้าแม่ตามที่เขาเชื่อนั่นแหละ เธอก็ขี้เกียจอธิบายด้วย
แถวนี้น้ำท่วมบ่อยไหม
แทบจะไม่เคยเลย
ไม่น่าล่ะ แต่ทุกคนก็ดูช่วยกันดีนะ
ก็เพราะว่าพวกเขามีผลผลิตรอเก็บเกี่ยวอยู่นะสิ มันไม่คุ้มกันหรอกถ้าจะอยู่เฉยๆ ปล่อยให้น้ำท่วมทุ่งและรอเงินชดเชยจากรัฐที่ค่อนข้างแน่ชัดมักจะมีปัญหาด้านเศรษฐศาสตร์
ยังไง สักวาถามกลั้วหัวเราะ
ก็อุปสงค์กับอุปทานมันขัดแย้งกันนะสิ เราลงทุนไปตั้งเยอะแต่เขาชดเชยนิดเดียว แต่ก็นะโทษเขาก็ไม่ได้ ช่างเถอะ ฟังจากที่ลุงเบิ้มบอกเมื่อคืน ฉันคิดว่าตำบลเราน่าจะรอด
ฝนเว้นช่วง น้ำก็จะลดระดับลง ถ้าคันกั้นไม่พังก็น่าจะพอไหว เมื่อวานเสริมคันกันอีกร่วมห้าสิบเซ็นต์ สักวารู้ดีเพราะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมคันกั้นน้ำ
ขอให้เป็นอย่างที่คุณว่าเถอะ ถ้าน้ำไม่ท่วม ฉันก็จะดีใจมากๆ เดี๋ยวฉันจะเลยไปดูน้ำสักหน่อย คุณอยากไปด้วยกันไหม เพลินตะวันกับสักวาเดินคุยกันมาจนกระทั่งถึงเรือน หญิงสาวจึงหันมาชวนและเขาก็พยักหน้า
ได้สิ เสร็จจากนั้นถ้าคุณว่างก็ช่วยไปส่งผมที่แปลงนาที่คุณว่ามีเพลี้ยกระโดดหน่อย
งั้นอีกชั่วโมงเจอกันที่บ้านนู้น หญิงสาวหมายถึงเรือนใหญ่ของลุงกับป้า เราต้องไปกินข้าวเช้ากันที่นั่น ป้านุ่มทำเผื่อคุณไว้แล้ว
ผมเกรงใจลุงกับป้าคุณจัง
ไม่ๆๆ ไม่ต้องคิดมาก ตอนลุงก้านอยู่ก็แบบนี้แหละ เราอยู่กันจนเหมือนญาติ อีกหน่อยคุณก็ชิน
ตำบลอื่นมีแบบนี้ไหม มีบ้านหลังใหญ่ มีอาหารอร่อยๆ ครบทุกมื้อ
เพลินตะวันยิ้มนัยน์ตาเป็นประกายสดใส คุณอาจจะโชคร้ายเรื่องย้ายผิดที่ แต่คุณก็โชคดีที่ได้ย้ายมาอยู่ตำบลร้อยบุญ เกษตรตำบลอื่นน่ะไม่ได้เป็นแบบนี้หรอก อาหารการกินก็ต้องหาต้องทำเอง ส่วนที่อยู่ก็ที่ทำการหมู่บ้าน อันที่จริงโครงการนี้ของเกษตรอำเภอคนเก่าก็ดีนะ แต่สงสัยท่านจะลืมคิดไปว่า กำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลอื่นเขาไม่ได้บ้าพลังเหมือนกำนันไก่โต้งกับลุงของฉัน เกษตรคนอื่นก็เลยซวยไป แต่คุณอย่าเที่ยวไปอวดเรื่องนี้กับเพื่อนๆ เกษตรคนอื่นเชียวนะ เพราะว่ามันจะยิ่งทำให้พวกเขาอิจฉาคุณมากขึ้น
คุณด้วยรู้เหรอว่าผมย้ายมาผิดที่
ไม่รู้ก็บ้าแล้ว เมื่อวานตอนคุณอ้อนแฟนคุณน่ะ ฉันได้ยินคุณพูดหมด
นิสัย ชายหนุ่มหน้ามุ่ย ออกปากว่าอย่างไม่เกรงใจ แต่เธอกลับหัวเราะ ถอดรองเท้าแตะก้าวลงไปในอ่างล้างเท้าและขึ้นเรือน เห็นหญิงสาวขึ้นบันไดได้สองขั้น สักวาก็ได้ยินเสียงเธอลอยมา
เกษตรกลับเรือนไปอาบน้ำแต่งตัวไป๊ เดี๋ยวจะพาไปปราบเพลี้ย
ชายหนุ่มส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วเดินตรงไปยังเรือนพักของตน ว่าไปการผูกมิตรกับยัยผีกะหล่ำนั่นก็ดีไปอย่าง เขาจะได้ไม่ต้องมาปวดขมับ ตับ ไต คิดหาถ้อยคำต่อล้อต่อเถียงกับเธอให้สิ้นเปลืองพลังงาน แม้ว่าจะค่อนข้างงุนงงกับอารมณ์แปรปรวนของยัยนั่น จะไม่งงยังไงไหว เมื่อวานยังกัดเขาอยู่ พอเช้าตรู่มาขอผูกมิตร สงสัยเมื่อคืนจะละเมอตกเตียงหัวโขกพื้นจนสมองกลับกระมัง
หญิงสาวผู้ถูกนินทาลับหลังไม่ได้สมองกลับอย่างที่สักวาคิด เพลินตะวันหันกลับไปมองด้านหลังของเกษตรคนใหม่ ก่อนถอนใจออกมาแรงๆ ให้ตาย! เธอนอนคิดพลิกไปพลิกมาตลอดทั้งคืนก่อนจะตัดสินใจชวนเขาไปอย่างนั้น เหตุผลก็ง่ายแสนง่ายนั่นคือเพื่อความสงบสุขในการทำงาน เธอไม่อยากให้ความบาดหมางของเธอกับเขาเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เพราะรู้ดีว่าตัวเองนั้นแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ค่อยจะออกนัก ทำไงได้คนเรามันก็ต้องมีข้อเสียกันทั้งนั้น ก็เรื่องนี้แหละที่ทำให้เธอคิดหาหนทางจบปัญหาทุกอย่างให้งดงาม
เธอรู้ว่าสักวาไม่ได้ตั้งใจมาพัฒนาร้อยบุญแต่แรก เขามาเพราะความผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสารเรื่องการย้าย น้ำเสียงละห้อยหาของเขาที่พร่ำรำพันกับคนรักยังสะเทือนใจเธอไม่หาย มีคนรักรอเขาอยู่ที่บ้านเกิดและตอนนี้ฝ่ายนั้นก็เหมือนจะยังไม่หายโกรธเขา
สักวาคงจะอยู่เป็นภาระของป้านุ่มไม่นาน เธอพอคาดเดาเหตุการณ์ได้ เป็นใครก็คงทำแบบเดียวกัน ถ้ามีโอกาสสักวาก็คงจะร่อนใบขอย้ายกลับบ้านเกิดทันที
ก็ใช้ชีวิตที่นี่ให้มีความสุขแล้วกันนะเกษตร หญิงสาวอวยพรก่อนเดินผ่านนอกชานเปิดประตูเรือนเข้าไปภายใน
สมาชิกทุกคนมาเจอกันอีกครั้ง มื้อเช้าที่เรือนใหญ่วันนี้มีกับข้าวหลายอย่างตั้งรออยู่ ลุงผู้ใหญ่และหลานๆ ปรึกษากันหลังกินข้าวอิ่ม วันนี้เพลินตะวันต้องเก็บถั่วฝักยาวไปส่งที่ตลาด ส่วนจันทน์กะพ้อกับโหรานั้นไม่ต้องไปส่งดอกไม้ที่ไหน เพราะวันพระเพิ่งผ่านไป สองหนุ่มจึงตั้งใจจะไปดูคันกั้นและจะอยู่เฝ้าดูระดับน้ำร่วมกับชาวบ้านหมู่อื่น
งั้นเดี๋ยวเกษตรก็ไปกับฉันเลย ไปดูคันกั้นน้ำเสร็จแล้วก็ไปเก็บถั่วข้างๆ แปลงถั่วเป็นนาลุงนวย ถ้าเกษตรไม่ช่วยฉันเก็บถั่ว เกษตรก็ไปเดินดูเพลี้ยกระโดดที่นั่นรอฉันก็ได้
สักวาหันไปมองหญิงสาวเพราะสะดุดหูกับคำพูดของเธอ นี่อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าเขาจะช่วยเก็บถั่ว งานใครงานมันเถอะแม่คุณ
เอาเป็นว่าผมจะไปเดินดูเพลี้ยแถวนั้นรอคุณแล้วกัน
เพลินตะวันหัวเราะแล้วแกล้งบอกอย่างผิดหวัง โธ่...ฉันก็นึกว่าจะได้คนช่วยแล้วเชียว ก็ได้ๆ เอาตามนั้นแหละ
ดูเหมือนสถานการณ์ที่ดีขึ้นระหว่างเธอกับสักวาจะทำให้ทุกคนตกใจและตามไม่ทัน ก่อนลงจากเรือนใหญ่จันทน์กะพ้อที่ทนสงสัยอะไรได้ไม่นานก็ดึงแขนน้องสาวเอาไว้ เมื่อเห็นว่าสักวาลงเรือนไปเรียบร้อยจึงได้ถาม
บอกพี่หน่อยเถอะน้องรัก แกญาติดีกับเกษตรเขาตั้งแต่ตอนไหนวะ
ตอนเช้า
อะไรวะ เมื่อคืนยังทำท่าเหมือนจะโดดงับหูเขาอยู่เลย
พี่จันทน์ก็... เพลินตะวันลากเสียงยานคาง ฉันน่ะมืออาชีพ เวลาทำงานฉันก็อยากจะได้ร่วมงานกับคนที่ไม่มีปัญหา ฉันก็เลยจัดการเคลียร์กับเกษตรแถมยังใจดีอาสาเป็นพี่เลี้ยงให้เขาด้วยน้า
โห...ไม่น่าเชื่อ น้องเพลินนี่สุดยอดจริงๆ โหรายังอดทึ่งไม่ได้
ก็ต้องทำค่ะพี่โหร ดีกว่ามามีปัญหา อีกอย่างเราอยู่กันแค่นี้ เพลินขี้เกียจฟังป้านุ่มบ่น
คิดได้อย่างนี้ก็ดี จันทน์กะพ้อเห็นด้วย รีบลงไปเถอะ เดี๋ยวเกษตรเขาจะรอนาน
จ้ะ ฉันไปนะพี่ เพลินตะวันยิ้มหวาน โบกมือลาสองหนุ่ม แม้ว่าทั้งหมดจะต้องไปเจอกันที่คันกั้นน้ำอีกครั้ง
งงไหมไอ้โหร จันทน์กะพ้อกอดอกมองลงจากเรือนเห็นเกษตรกำลังขึ้นฟ้าสะอื้นปุโรทั่ง บางทีฉันก็ตามอารมณ์ยัยเพลินไม่ทันจริงๆ ว่ะ
แกก็อย่าไปคิดอะไร น้องเพลินก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากมีปัญหา สงบศึกซะเรื่องจะได้ไม่เยอะ ฉันว่าน้องสาวแกทำถูกแล้ว
ถูกต้องสำหรับมัน แต่คงไม่ถูกใจสำหรับใครบางคน จันทน์กะพ้อทิ้งท้ายอย่างครุ่นคิด ก่อนจะคลายมือออกและตบไหล่เพื่อน ช่างมันโว้ย เราไปกันดีกว่า เสร็จแล้วฉันจะพาแกไปชะเง้อมองหลังคาตำหนักเจ้าแม่
แม้จะถูกใจ แต่โหราก็ยังแก้อายด้วยการด่าเพื่อนรักขมุบขมิบ
ไอ้บ้าจันทน์ ฉันเขินนะ แต่รีบไปเถอะ แกอย่ามัวช้าสิ
สักวาเดินลัดเลาะตามคันนาพร้อมกับสำรวจเจ้าตัวปัญหาอย่างขมักเขม่น หลังจากแยกกันตรงแปลงถั่ว ชายหนุ่มก็เดินผ่านแปลงกะหล่ำ แปลงกวางตุ้ง และแปลงบวบของเพลินตะวันไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมือเธอถึงได้ด้านและหยาบกระด้างขนาดนั้น
ไม่อยากเชื่อเลยว่าทั้งหมดที่เขาเห็นเป็นฝีมือของเพลินตะวัน ยัยผีกะหล่ำทำได้ยังไง ผักหลายชนิดถูกปลูกในพื้นที่ขนาดยี่สิบไร่โดยประมาณ เธอบอกกับเขาอย่างภูมิใจว่าทุกอย่างที่เขาเห็นได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอแต่เพียงผู้เดียว ขึ้นแปลง ขุดหลุม เพาะเมล็ดหรือแม้กระทั่งการต่อสายน้ำหยด
แปลงถั่วฝักยาวของเธอก็คงประมาณสองงานเศษ สักวาไม่ได้เข้าไปใกล้เพราะมันปลูกอยู่คนละด้านกับนาลุงนวย เพลินตะวันชี้อาณาเขตและอธิบายกับเขาว่านาใครเป็นนาใคร ก่อนจะถามเขาเป็นครั้งสุดท้าย
แน่ใจนะว่าไม่ช่วยกันเก็บถั่วจริงๆ สนุกน้า
เอาไว้สนุกวันหลังดีกว่า วันนี้ผมตั้งใจมาปราบเพลี้ย เสียใจด้วยนะสาวน้อย สักวาทิ้งท้ายแล้วปลีกตัวออกมา
เพลินตะวันไม่มีปัญหาอยู่แล้วกับเรื่องแค่นี้ เธอไม่เซ้าซี้และมุ่งหน้าไปทำงานของตัวเองเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่วายตะโกนข้ามฟากมาที่เขา
เดินดีๆ นะเกษตร ตกคันนาขาหักระวังนางไหไม่รักนะ
แล้วเธอก็ผลุบหายไปในดงถั่วฝักยาวที่เลื้อยพันหลักสูงท่วมหัว สักวาถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจีกว้างไกลสุดลูกตา อากาศยามเช้าสดชื่นนัก นานมาแล้วที่เขาไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้ สักวาหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปหยดน้ำปลายยอดข้าวแล้วส่งให้สาวคนรักพร้อมข้อความสั้นๆ เช้านี้พี่คิดถึงจินนี่ที่สุด
ชายหนุ่มเริ่มการเดินสำรวจตามที่เคยทำมา การสุ่มเก็บตัวอย่างประชากรเพลี้ยกระโดดว่าพวกมันแพร่กระจายมากน้อยเพียงใด เขาผ่านนาของลุงนวยไปสู่ผืนนาที่ติดต่อกัน แดดยังไม่ร้อนมากนักและเมื่อเริ่มงานสักวาก็มักจะลืมปัญหาอื่นจนหมด รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาเจอยัยผีกะหล่ำเดินไต่คันนามาหาเขานั่นแหละ
เก็บถั่วเสร็จแล้วเหรอ
เสร็จแล้ว เธอพยักหน้าที่มีเม็ดเหงื่อเล็กๆ ผุดขึ้นมาตามไรผม เป็นไงบ้างเพลี้ยเยอะไหม
ก็พอมีอยู่นะ แต่ว่าไม่น่ากลัวเท่าไรหรอก อาจจะเป็นเพราะฝนตกแล้วเจ้าของนาเปิดน้ำทิ้งเพลี้ยมันเลยขยายพันธุ์ไม่ได้ แต่ยังต้องดูที่นาแปลงอื่นด้วย จริงสิเดี๋ยวคุณต้องไปส่งถั่วที่ตลาดใช่ไหม ผมขอติดรถไปหาพี่ดอนหน่อยสิ
ได้เลย เกษตรจะเดินดูต่ออีกไหมล่ะ ฉันจะได้ช่วยหา เสร็จแล้วเราก็ไปแลกรถกับพี่จันทน์ จากนั้นก็ไปตลาด หญิงสาววางแผนการเดินทาง
แล้วทำไมเราไม่เอารถคุณจันทน์มาตั้งแต่แรก สักวาอดสงสัยไม่ได้
ก็มันชิน นี่ฉันเกรงใจคุณหรอกถึงได้คิดจะไปเปลี่ยนรถ ถ้าตัวคนเดียวฉันก็ซิ่งไปกับฟ้าสะอื้นแล้ว
ขอบคุณที่ยังคิดถึงผม
เพลินตะวันหรี่ตามองคนพูดและรู้ว่าถูกประชด เกษตรหวานี่ไม่คิดจะเก็บความไม่ชอบไว้กับตัวเลยนะ จะอะไรนักหนากับรถคู่บารมีของเธอ ไม่อยากจะคุยว่าสภาพแบบนี้เคยบรรทุกผักทีเต็มคันรถมาแล้วนะคะเกษตร
ผมไม่ได้รังเกียจรถเก่า ขอให้เข้าใจไว้ด้วย แต่ไอ้รถคันนี้มันทำผมเจ็บตัวมาแล้ว คุณจะดูแผลไหม สักวาทำท่าจะดึงริมฝีปากล่างของตัวเองโชว์แผลให้เธอดู
ไม่ต้องๆ เพลินตะวันรีบห้ามแล้วบอกให้เขาเดินตามไปที่รถ
เพลินตะวันเดินกลับมาที่รถหลังจากหอบถุงถั่วฝักยาวไปส่งให้ร้านอาหารตามสั่งทั่วทั้งตลาด สักวาปิดปากเงียบและไม่ยอมเสนอตัวช่วยเธอแม้แต่น้อย พอเธอเปิดประตูรถเขาก็พูดว่า
คุณออกกำลังกายแบบนี้ทุกวันมิน่าถึงไม่มีปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกิน
ไม่ต้องมาพูดดีเลยเกษตร ช่วยฉันหอบหน่อยก็ไม่ได้ เธอย่นจมูกใส่ก่อนติดเครื่องยนต์ ไปสำนักงานเลยนะ
สักวาพยักหน้าเงียบ แม้ในใจจะรู้สึกสนุกขึ้นมานิดหน่อยที่ได้แกล้งยัยผีกะหล่ำได้ รถแล่นออกจากตลาดได้ไม่นานก็ถึงสำนักงานเกษตรอำเภอ ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อเพลินตะวันก้าวลงจากรถมาด้วย
จะไปไหน
เธอชูถุงถั่วที่ล้วงจากหลังเบาะให้เขาดู จะเอานี่ไปฝากพี่เอยสักหน่อยไหนๆ ก็มาแล้ว
ยัยผีนี่ช่างกว้างขวางเสียจริง สักวาคิดค่อนแล้วเดินเข้าไปในสำนักงาน เมื่อก้าวพ้นบันไดก็พบกับสีทันดรที่เดินอยู่แถวนั้นพอดี
อ้าว หวา เพลินมาพอดีเลย เกษตรอำเภอร้องออกมาอย่างดีใจ รีบเดินเข้ามาใกล้พวกเขา พี่กำลังอยากเจอ กะว่าจะให้พี่เอยโทรไปตามอยู่เชียว ไปคุยกันที่ห้องดีกว่า มีงานใหญ่มารออีกแล้วไอ้น้อง
ประโยคหลังสีทันดรบอกกับสักวาโดยเฉพาะ เกษตรอำเภอรูปหล่อตบบ่าเกษตรตำบลรุ่นน้องแล้วกล่าวอย่างยินดี จะมีก็แต่สักวานั่นแหละที่รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา งานใหญ่อีกแล้ว ดูเหมือนที่นี่จะมีเรื่องให้เขาตื่นเต้นตลอดเวลาเลยจริงๆ
จากน้ำท่วม สู่เพลี้ยกระโดด แล้วนี่ยังจะมีงานใหญ่อีก ไม่อยากจะคิดว่าฟ้าเข้าข้าง แต่นี่มันช่างเหมาะแก่การสร้างผลงานจริงๆ ชายหนุ่มยิ้มกริ่มอย่างมีความหวัง