บทนำ
"มันจะดีหรือคะ"
คำถามที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจหลุดออกมาจากปากหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้คนภายนอกมักจะเข้าใจว่าเธอเป็นคนหัวอ่อน สงบปากสงบคำ ใครว่าอย่างไรเธอก็ไปตามนั้น แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่ฉลาดและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ต่างหาก เรื่องที่คิดว่าเธอจะตกลงยอมรับง่ายๆ หากไม่มีเหตุผลที่ดีพอละก็ ยากนักที่จะยอมร่วมมือ
เย็นวันนี้หญิงสาวถูกนัดมาเพื่อคุยธุระสำคัญ พอได้ยินเข้าก็ลมแทบจับมันสำคัญจริงๆ ซะด้วย สำคัญสำหรับเธอและคนที่นั่งตรงกันข้าม ผู้ชายคนที่เธอรู้จักมานานเป็นสิบๆ ปี ผู้ชายหน้าตาคมเข้ม รูปร่างบึกบึน สีผิวของเขาออกคล้ำเพราะทำงานกลางแจ้งเสียส่วนใหญ่ และตอนนี้เขากำลังนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงข้ามเธอ กาแฟที่สั่งมาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนยังไม่ลดลงเช่นเดียวกับไอศกรีมในถ้วยของเธอที่ละลายไปแล้วกว่าครึ่ง
"อย่างน้อยผมก็มั่นใจว่ามันคงจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ พูดตรงๆ นะผมเบื่อชีวิตแบบนี้เต็มทีแล้ว มันคงถึงเวลาที่ทุกอย่างจะต้องสิ้นสุดสักที หากไม่ทำให้เรื่องมันจบผมคงไม่มีความสุข ตัวคุณเองก็เหมือนกัน จะอยู่เงียบๆ แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน อย่าคิดมาเถียงเชียวนะ แค่มองตาคุณผมก็รู้แล้วว่าคิดยังไง เราต้องกล้าสู้กับความรู้สึกของตัวเองสิ"
"แต่ยังไงฉันก็ว่ามันเร็วเกินไป ฉัน...ต้องการเวลามากกว่านี้ อย่างน้อยก็ให้ตัวเองได้มีเวลาทบทวนบ้าง"
"จะทบทวนเพื่ออะไรล่ะ อย่าบอกนะว่าใจคุณไม่ได้คิดอะไร ผมไม่เชื่อ" ชายหนุ่มดักคอด้วยกระแสเสียงที่มั่นใจมาก ก่อนจะเบนหน้าไปมองโต๊ะข้างๆ หนุ่มสาวคู่นั้นเข้ามานั่งไล่เลี่ยกับเขาและตอนนี้ทั้งคู่ก็เช็คบิลเดินออกนอกร้านไปแล้ว แต่ธุระของเขายังไม่เสร็จ จึงหันหน้ากลับมามองหญิงสาวคู่นัด
สายตาคมกริบมองเธออย่างพิจารณา เขายอมรับกับตัวเองเลยว่า เธอเป็นคนสวย สวยหวานแบบน่าทะนุถนอม อยู่ใกล้ก็รู้สึกอบอุ่น เขาและผู้ชายทั้งโลกตระหนักถึงความจริงข้อนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะปล่อยให้ผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นแม่ของลูกหลุดมือไป แม้ว่าจะดูหงิมๆ อยู่บ้างแต่เมื่อถึงคราวคับขันหญิงสาวผู้นี้ก็พร้อมจะสู้ยิบตาเหมือนกัน เขาเห็นมาหลายครั้งแล้ว
เขากับเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนจะแยกย้ายกันไปเพราะพ่อของเธอต้องไปประจำการที่จังหวัดอื่น จนกระทั่งกลับมาเจอกันอีกทีก็รู้ว่าเธอมาเป็นเลขาให้เพื่อนสนิทเขาเสียแล้ว การได้เจอเพื่อนเก่าทำให้เขาเข้าออฟฟิศบ่อยขึ้นจนพวกน้องๆ ชอบล้อว่าเขาไปจีบเลขาเจ้านาย ก็ใครจะเข้าใจอย่างนั้นก็ช่างปะไร เอาแค่เขากับเธอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแค่นั้นแหละพอ
"วางใจผมเถอะนะ คุณก็รู้ว่าเชื่อใจผมได้" ชายหนุ่มพยายามหว่านล้อม
"แล้วทำไมถึงเลือกฉันล่ะคะ ในสายตาคนภายนอกเราก็เหมือนเพิ่งเจอกันได้ไม่นาน"
"แต่พวกนั้นเขาก็รู้กันทั่วว่าผมจีบคุณ" คำตอบนี้ทำให้เธอหัวเราะเลิกคิ้วมองคนพูดคล้ายจะล้อเลียน
"ฉันคิดว่าตัวเองคงจะต้องดีใจกับข่าวนี้สักหน่อยแล้วล่ะ เพราะเท่าที่รู้สึกคือคุณแค่เข้ามารับงานจากฉันแค่นั้นเองนะคะ"
"เอาน่า ใครมันจะมารู้ดีไปกว่าเรากันเอง แต่อย่าเพิ่งเลี่ยงไปเรื่องอื่นเลยนะ ขอร้อง ตกลงอย่างเอาที่ผมบอกนะ เราสองคน..." เขาพูดอย่างรวบรัด แต่เธอกลับส่ายหน้า จึงเกิดคำถามตามมา "ทำไม"
"ฉันว่ามันไม่โรแมนติกเลยนะคะ พูดแบบนี้มันฟังดูแห้งแล้งยังไงก็ไม่รู้"
ให้ตายสิ ชายหนุ่มตบหน้าผากตัวเองแล้วหงายหลังไปพิงพนักเป่าลมออกจากปาก บทจะเรื่องมากก็มากซะจริงๆ
"นี่อย่าคิดมานินทาฉันในใจเชียวนะ" เธอดักคอจึงโดนอีกฝ่ายค่อนขอด
"แสนรู้ ไม่น่าเจ้านายถึงหวงนัก"
"อย่าพาดพิงคนอื่นสิคะ"
เฮอะ ชายหนุ่มแค่นเสียงขึ้นจมูก "คงไม่ใช่คนอื่นล่ะมั้ง แต่ช่างมันเถอะ นี่จะต้องให้ผมเตือนอีกกี่ครั้งถึงจะเลิกพาออกนอกเรื่อง"
"คุณก็อย่าดุฉันสิคะ นี่มันอนาคตทั้งชีวิตของฉันเลยนะ"
"เฮ้อ" ชายหนุ่มถอนใจออกมาดังๆ อย่างหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาจะทิ้งไว้ที่ร้านนี่จริงๆ ด้วย
หญิงสาวยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ผู้ชายคนไหนมาเจอรอยยิ้มอย่างนี้เข้าไม่ใจอ่อนก็บ้าแล้ว เขาคิดว่าบางครั้งเธอก็ดูซับซ้อนเหมือนกัน บางครั้งเธอดูเป็นคนขี้กลัว บางครั้งก็ขี้เล่นต่อล้อต่อเถียงได้ดีนัก มันให้ความรู้สึกผ่อนคลายเพราะถึงยังไงความซับซ้อนที่ว่าของเธอก็ยังไม่เยอะเท่าผู้หญิงคนอื่น
"บู๊คะ" เธอเรียกเขาพลางมองหน้า นี่ล่ะเวลาที่เขารอมานาน เธอพร้อมจะพูดจริงจังกับเขาสักที "ที่ฉันต้องการเวลาคิดเพราะว่าเรื่องนี้มันมีผลกับชีวิตของเราสองคน ฉันไม่อยากพลาด เราอาจจะเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่"
"ไม่มีทาง ผมกล้าเอาหัวเป็นประกัน"
"ฉันสงสัยจริงๆ ว่าคุณอยู่มาจนป่านนี้ได้ยังไง"
"ก็ผมรอผู้หญิงแบบคุณอยู่ไงบุหลัน"
"แน่ใจนะคะว่าเราจะไปกันรอด ฉันเคยแต่เดินป่าเป็นเพื่อนเล่นคุณนะ ไม่เคยเล่นพ่อแม่ลูกกันสักที"
"โอ๊ย...ไอ้เรื่องแบบนี้มันง่ายจะตาย สบายหายห่วงเลย"
คุณก็เป็นซะแบบนี้ หญิงสาวมองหน้าเขานิ่ง ริมฝีปากอวบอิ่มเม้นเข้าหากันแน่น เธอพยายามบอกตัวเองว่าทุกๆ อย่างจะต้องเรียบร้อย ในเมื่อเขารับปากเธอแล้ว เธอรู้ว่าเขารักษาคำพูด แม้ว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างจะบ้าระห่ำไปสักหน่อย แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธอก็ไม่เอาด้วยหรอก
"นะๆ บุหลัน เชื่อใจผมนะ" ฝ่ายชายยังคงเร่งเร้า
หญิงสาวกัดริมฝีปาก เหลือบตามองเขาครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจ"ก็ได้ค่ะ เรา...จะแต่งงานกัน"
ขอบคุณบุหลัน ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลย รับรองได้ อ้อ...เรื่องของเรา ผมจะเป็นคนบอกเจ้านายคุณเองนะ ไม่ต้องห่วง ไอ้หมอนั่นจะต้องตะลึงตาค้างแน่นอน ชายหนุ่มพูดแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข สมองเริ่มวางแผนการขึ้นมาเป็นฉากๆ
********************************************
ทดสอบเอาฤกษ์เอาชัย เพี้ยง!!!!!!!! ขอให้จบด้วยเถิดดดดดดดดดด